Review : ใช้บริการฝากของครั้งแรกที่ CloudRoom

วันนี้จะขอแชร์ประสบการณ์การใช้บริการรับฝากของ ของ CloudRoom แต่แอบบอกก่อนว่าไม่ได้เป็นการใช้งานตรงจากตัวผู้เขียน แต่เป็นเพื่อนชาวญี่ปุ่นของผู้เขียนเอง 

เรื่องมีอยู่ว่า ในช่วงสถานการณ์โควิดที่เข้าเกือบปีที่ 2 นี่เอง บริษัทญี่ปุ่นในบ้านเราปิดตัวก็มาก ทั้งบริษัทขนาดกลาง ขนาดเล็ก และโดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหาร ถ้าใครได้ผ่านไปแถวสุขุมวิทก็จะเป็นว่าร้านอาหารญี่ปุ่นปิด (แบบถาวร) เยอะมาก ๆ บริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่เรียกพนักงานที่ประจำอยู่ในประเทศไทยกลับไปก่อน บางที่ก็ชั่วคราว บางที่ก็กลับถาวรอาจจะด้วยเหตุผลเรื่องของการฉีดวัคซีน การทำธุรกิจ ถึงแม้บริษัทแม่ไม่เรียกกลับ แต่ก็มีคนญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยที่ขอกลับไปตั้งหลักก่อนช่วงนี้ โควิดซาค่อยมาใหม่ ยังไงก็รักประเทศไทย (ว่างั้น ^^) 

เล่ามาถึงตรงนี้ ใช่ เพื่อนชาวญี่ปุ่นของผู้เขียนก็เช่นกัน บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นเรียกตัวกลับชั่วคราว อย่างน้อยถึงสิ้นปี ทำให้เพื่อนชาวญี่ปุ่นคนนี้ต้องเตรียมตัวเก็บของกลับบ้านชั่วคราว สิ่งที่เพื่อนผู้เขียนต้องทำนอกจากเรื่องของการเดินทางต่าง ๆ แล้ว อีกเรื่องที่สำคัญคือเรื่องของการยกเลิกการเช่าห้องพัก ข้าวของต่าง ๆ จะทำเช่นไร จะเช่าห้องต่อไปเพราะคิดว่าปีหน้าจะได้กลับมาก็คงไม่ไหว เพราะว่าค่าเช่าก็ค่อนข้างสูง แต่ถ้าไม่เช่าต่อข้าวของเครื่องใช้จะทำอย่างไร ทิ้งก็ไม่ได้ เธอจึงเริ่มหาพื้นที่ให้เช่าเก็บของใช้ส่วนตัว หรือว่า Self-Storage นั่นเอง

ผู้เขียนต้องบอกก่อนเลยว่า ชาวญี่ปุ่นนั้นมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดีเกี่ยวกับวัฒนธรรมในการเช่าพื้นที่เก็บของใช้ส่วนตัว เพื่อใช้เก็บสิ่งของที่นาน ๆ จะได้เอาออกมาใช้ ทิ้งก็ไม่ได้ และอย่างที่รู้กันอยู่ว่าพื้นที่อยู่อาศัยในญี่ปุ่นนั้นเล็กมาก ดังนั้นการเช่าพื้นที่เก็บของใช้ส่วนตัวหรือ Self-Storage นั้นถือเป็นบริการที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีอยู่แล้ว อ่อ ชาวญี่ปุ่นเค้าเรียกบริการนี้ว่า Trunk Room 

ในขณะที่เพื่อนชาวญี่ปุ่นของผู้เขียนกำลัง Search หาข้อมูล Self-Storage อยู่นั้น เธอก็ได้ไปเจอและสนใจผู้ให้บริการรายหนึ่งชื่อว่า CloudRoom  เพราะในเว็บไซต์เค้าเขียนไว้บอกว่า “เพิ่มพื้นที่กิจกรรมในบ้านของคุณ ด้วยห้องเก็บของส่วนตัวครบจบในสมาร์ทโฟน” (ผู้เขียนอ่านในเว็บภาษาไทย) มีมาประเมินราคาฟรีที่บ้านด้วย (ผู้เขียนคิดไปเองว่าที่เธอสนใจเหตุผลนึงก็เพราะว่าเป็นบริษัทญี่ปุ่นที่แหละ 55 ชาตินิยม ^^) ก็เลย Add LINE ไปถามเกี่ยวกับบริการรับฝากของว่าเป็นอย่างไร พนักงานก็อธิบายให้ฟังว่า การฝากของกับ CloudRoom นั้น ลูกค้าไม่ต้องเดินทางมายัง Storage เอง เพราะว่ามีบริการจัดส่ง สามารถเข้ามาประเมินราคาให้หน้างานได้ ดูว่ามีสิ่งของอะไรบ้าง โดยราคานั้นก็จะคิดตามสิ่งของที่นำมาเก็บ แล้วก็สามารถตรวจสอบสิ่งของที่นำมาเก็บไว้ได้บนสมารทโฟน 

ผู้เขียนได้ยินดังนี้ก็ เอ้อ แปลก ไม่เหมือนใคร แล้วยังไง ลองดูมั้ย ก็ปรึกษากันกับเพื่อชาวญี่ปุ่น แต่ผู้เขียนเองนั้นติดใจเรื่องของการคิดราคา คิดตามจำนวนของที่ฝาก มันยังไง แล้วไม่ต้องเช่าห้องแล้วเราจะเอาของเข้าหรือว่าออกยังไง คำถามเยอะมาก แต่สุดท้ายเราก็ตัดสินใจว่าจะลองดู อย่างน้อยก็เข้ามาประเมินราคาก่อน ไม่ใช้บริการก็ไม่เป็นไร เพื่อนชาวญี่ปุ่นของผู้เขียนก็เลยนัดวันและเวลาให้พนักงาน CloudRoom เข้ามาประเมินราคาที่บ้าน

จนถึงวันที่พนักงานเข้ามาประเมินราคา พบว่า มีพนักงานหนุ่มหล่อหน้าตาทีชาวญี่ปุ่น 1 คน และพนักงานชาวไทยเป็นผู้หญิงอีก 1 คน แต่ตัวยูนิฟอร์มแลดูสะอาดเรียบร้อย มาพร้อมกับกล่องที่เป็นกล่องกระดาษสีขาวดูแข็งแรง อุปกรณ์ในการแพ็คของมาให้พร้อมสรรพ 

จากนั้นพนักงานก็ถามว่ามีของชิ้นไหนที่ต้องการนำมาเก็บที่ CloudRoom บ้าง เพื่อนชาวญี่ปุ่นเราก็แจ้งไป มีของที่เธอต้องการนำไปเก็บก็จะมี ไมโครเวฟ ของใช้ส่วนตัว ของจุกจิก หนังสือ จิปาถะต่าง ๆ ทางพนักงานก็แนะนำว่า พวกข้าวของเครื่องใช้หนังสือต่าง ๆ ให้เก็บใส่ลังกระดาษที่นำมาด้วย ส่วนไมโครเวฟมีขนาดใหญ่ว่าลัง ก็ไม่ต้องใส่แต่พนักงานจะห่อกันกระแทกให้อย่างดี 

ในส่วนของใช้อื่น ๆ นั้นก็จัดการใส่กล่องที่ทาง CloudRoom นำมาให้ จำนวนทั้งหมด 6 กล่อง 

มาถึงตรงนี้ คงไม่ต้องถามแล้วว่าเพื่อนชาวญี่ปุ่นของเราตัดสินใจใช้บริการหรือไม่ ^^ สรุปก็คือ ของที่เธอต้องการนำไปฝากไว้ทั้งหมดมี ของที่ใส่กล่องกระดาษ 6 กล่อง แล้วก็ ไมโครเวฟอีก 1 เครื่อง พนักงานแจ้งว่าของทั้งหมดมีปริมาณทั้งหมด 356 Cell ค่าใช้บริการแพ็คเกจ Entry plan ราคาเดือนละ 900 บาท ส่วนระยะเวลาสัญญาสามารถยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้ ส่วนค่าบริการก็ตัดบัตรเครดิตทุกเดือน เพื่อนชาวญี่ปุ่นของผู้เขียนก็ตกลงทำสัญญาใช้บริการทันที 

พนักงานให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังจากทำสัญญาใช้บริการแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่อนุญาตให้ลูกค้าเข้าไปดูสิ่งของของตัวเองในที่จัดเก็บได้ แต่สิ่งของจะถูกนำไปจัดเก็บไว้ยังสถานที่จัดเก็บที่ปลอดภัย มีระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง และสามารถตรวจสอบสิ่งของที่นำมาเก็บไว้ได้ทางเว็บไซต์ ถ้าต้องการนำสิ่งของออก ก็ให้แจ้งพนักงานเพื่อดำเนินการจัดส่งให้ 

สำหรับผู้เขียนเองนั้น บริการรับฝากของของ CloudRoom ถือว่าต่างจากผู้ให้บริการอื่น ๆ ตรงที่ ไม่ต้องเช่าพื้นที่ที่เป็นห้อง ๆ แต่คิดราคาตามจำนวนสิ่งของที่ต้องการนำไปฝาก (ถึงแม้ว่าจะงง ๆ กับหลักการคำนวณ) แต่รวม ๆ แล้ว เมื่อเทียบกับของที่เพื่อนชาวญี่ปุ่นนำไปฝากไว้นั้นก็ถือว่าราคาดูดี ไม่แพงมากจนเกินไป แต่การที่เราไม่สามารถเข้าไปดูสิ่งของของเราที่นำไปเก็บไว้นั้น ผู้เขียนก็แอบกังวลหน่อย ๆ นะ แต่ก็ยังดีว่าสามารถดูได้จากเว็บไซต์ แล้วก็มีระบบการรักษาความปลอดภัย ส่วนบริการก็ตามมาตรฐานคนญี่ปุ่น 55 ส่วนในด้านความสะดวก ก็ถือว่าสะดวกดี เพราะว่าเราไม่ต้องเดินทางไปเอง ไม่ต้องขนเอง พนักงานบริการเสร็จสรรพ ตรงนี้ถือว่าดีมาก ๆ พนักงานให้บริการดี มีพนักงานผู้หญิงมาด้วยก็ไม่ค่อยรู้สึกกังวลมากเท่าไหร่ ช่องทางในการชำระเงินก็สะดวกดี ตัดบัตรเครดิต สัญญาก็ยืดหยุ่นดี ไม่ผูกมัด ยกเลิกตอนไหนก็ได้ มีบริการกล่องให้ด้วย มีอุปกรณ์การหีบห่อกันกระแทกให้ด้วย รวม ๆ ถือว่าประทับใจ

hanabatake

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *