เฟอร์นิเจอร์ในบ้านบางชิ้นไม่ได้ถูกใช้งาน เราจึงตัดสินใจนำไปเก็บไว้ที่ห้องเก็บของ ไม่ว่าจะเป็นห้องเก็บของที่บ้าน หรือเช่าห้องเก็บของ แต่เราจะรักษาให้เฟอร์นิเจอร์คงสภาพให้ดูดี และไม่เก่าลงได้ยังไง เรามีเคล็ดลับมาแนะนำค่ะ เราจะแบ่งประเภทของเฟอร์นิเจอร์เป็น 3 ประเภท เฟอร์นิเจอร์ไม้ 1. ใช้ผ้าแห้งเนื้อนุ่มเช็ด หรืออาจจะใช้ผ้าชุบน้ำสะอาด บิดหมาดๆ
ชาวกรุงเทพหลายคนที่โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส อาจจะเคยเห็นตู้สีเหลืองสะดุดตา โดดเด่นแต่ไกล เรามักจะเห็นในแต่ละจุดตามแนวรถไฟฟ้าและรถไฟฟ้าใต้ดิน ที่เพิ่มความสะดวกสบายให้คนกรุงอย่างที่นึกฝันมานาน พอเห็นแล้วเดาได้เลยว่าคือบริการล็อกเกอร์ฝากของที่เราอาจเห็นตามสถานีรถไฟที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตอนนี้ในไทยมีเปิดให้บริการแล้ว โดย “Lock Box” ตู้รับฝากของระบบอัตโนมัติ ราคาแต่ละขนาด เรามาดู Lock box ที่จุดบริการที่สถานีรถไฟฟ้าอโศกกันค่ะ เมื่อออกมาจากสถานี
สำหรับผู้ที่ชอบตกแต่งบ้าน ต้องรีโนเวทบ้าน หรือกำลังจะย้ายบ้าน จะต้องปวดหัวกับการหาที่เก็บของในระหว่างที่กำลังหาบ้านใหม่ หรืออยู่ในขั้นตอนการตกแต่งบ้านแน่ๆ แต่มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ถ้าในบ้านมีพื้นที่จำกัด ไม่สามารถนำของหรือเฟอร์นิเจอร์ไปแอบไว้ชั่วคราวได้ การหาพื้นที่จัดเก็บในระแวกใกล้เคียง เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด จะลดค่าใช้จ่ายในการขนย้ายและช่วยในการจัดสรรพื้นที่เมื่อมีการย้ายเข้าหรือออกได้ง่ายและสะดวก สำหรับบางคนอาจจะมีเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องจัดเก็บหรือย้ายเข้าย้ายออกบ่อยๆ เพราะการขนย้ายยิ่งไกลก็ยิ่งเสี่ยง และของบางชิ้นอาจจะไม่สามารถซ่อมแซมได้ พื้นที่จัดเก็บที่ว่า
การช้อปปิ้งออนไลน์อาจจะทำให้คุณเพลินเพลิน จนรู้สึกตัวอีกทีก็ไม่มีพื้นที่ให้เก็บของแล้ว เมื่อคุณมีพื้นที่จัดเก็บที่จำกัด เราเลยนำเคล็ดลับที่จะช่วยคุณจัดการกับการซื้อของออนไลน์และพื้นที่เก็บของมาฝากค่ะ 1. จัดลำดับความสำคัญของรายการที่จำเป็น – ซื้อเฉพาะรายการที่จำเป็นจริงๆ และพยายามหลีกเลี่ยงการซื้อด้วยแรงกระตุ้น 2. สร้างระบบจัดเก็บ – จัดระเบียบพื้นที่จัดเก็บและสร้างระบบเพื่อช่วยให้คุณติดตามรายการของคุณ ซึ่งอาจรวมถึงการใช้กล่องหรือชั้นวางที่มีป้ายกำกับ 3.
พ่อแม่มักจะชอบซื้อของเล่นให้ลูก ไม่ผิดค่ะ จนรู้ตัวอีกที ก็มีของเล่นเต็มบ้านแล้ว ของเล่นลูก กองใหญ่ๆ จะจัดการยังไงดีเรามีวิธีคัดแยก “กองของเล่น” คือจะค่อยๆแยกหมวดหมู่ก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการต่อไป โดยการหากล่อง (หรือตะกร้า) มาทั้งหมด 5 ใบ
เมื่อมีผู้คนจำนวนมากขึ้นอาศัยอยู่ในพื้นที่ใช้สอยที่เล็กลงและมีข้าวของเครื่องใช้มากขึ้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีระบบจัดเก็บที่เป็นระเบียบและมีประสิทธิภาพ เหตุผลหลักประการหนึ่งสำหรับการจัดเก็บในบ้านคือการเพิ่มฟังก์ชันการทำงานและความน่าอยู่ของบ้าน การกำหนดพื้นที่จัดเก็บสำหรับสิ่งของจะช่วยให้บ้านสะอาดและไม่เกะกะได้ง่ายขึ้น ในทางกลับกัน วิธีนี้สามารถลดระดับความเครียดและเพิ่มความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวม ประโยชน์อีกอย่างของที่เก็บของในบ้านคือสามารถช่วยปกป้องทรัพย์สินมีค่าได้ จัดเก็บสิ่งของอย่างเหมาะสม มีโอกาสน้อยที่จะเสียหายหรือสูญหาย นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับสิ่งของที่มีคุณค่าทางจิตใจหรือมีราคาแพง การมีระบบจะช่วยให้ค้นหาสิ่งของได้ง่ายขึ้นเมื่อต้องการ ลดเวลาที่ใช้ในการค้นหา นอกจากนี้ การมีพื้นที่จัดเก็บสิ่งของที่กำหนดสามารถป้องกันความจำเป็นในการซื้อคืนสิ่งของที่สูญหาย ซึ่งช่วยประหยัดเงินในระยะยาว
หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยว่า เราจะต้องมองหาสถานที่ฝากของเก็บของส่วนตัวเมื่อไหร่นั้น วันนี้จึงลองแนะนำวิธีสังเกตสิ่งของต่างๆภายในห้องว่าเข้าข่ายแล้วหรือยัง และควรที่จะมองหาสถานที่ฝากของได้แล้วนะมาฝากกันค่ะ จะตรงกับบ้านไหนบ้างมั้ยลองไปอ่านดูค่ะ มีอุปกรณ์ที่ใช้งานได้คล้ายกันตั้งแต่ 2 ชิ้นขึ้นไป เสื้อผ้าล้นตู้ แต่ใส่แค่ชุดเดิมๆ กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ถูกวางไว้นานโดยไม่นำมาใช้ จำนวนของสะสม เหล่า limited edition,
เมื่อคุณเริ่มรู้สึกว่าบ้านมันเล็กไปที่เก็บของไม่เพียงพอ เราเข้าใจคุณดีว่าของบางชิ้นมันก็ทำใจยากที่จะไปทิ้ง แต่หากเก็บไว้ในบ้านก็จะมีแต่ปล่อยให้รก ถึงแม้จะมีห้องเก็บของแต่ก็ไม่ไม่เพียงพอ เรามาดูกันว่า 5 อย่างที่ควรนำออกไปจากบ้าน มีอะไรบ้าง เสื้อผ้าที่ไม่ใส่เกิน 2 ปี สาวๆหลายๆคนคงเจอปัญหานี้ คือตู้เสื้อผ้าไม่พอใส่ เสื้อหลายตัวที่เก็บไว้เผื่อใส่เผื่อเลือก แต่พอถึงเวลาจริงๆก็ไปซื้อใหม่เสมอ
