เหตุการณ์แผ่นดินไหวเป็นภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า ดังนั้นการเตรียมตัวเพื่อรับมือกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและทรัพย์สิน โดยเฉพาะการจัดเก็บของในห้องเก็บของส่วนตัวที่มีความเสี่ยงในการได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ควรให้ความสำคัญในการจัดระเบียบและการเก็บของอย่างมีระเบียบเพื่อป้องกันอุบัติเหตุหรือการเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
- การเลือกตำแหน่งในการเก็บของ
การเลือกตำแหน่งในการเก็บของในห้องเก็บของส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยควรเลือกพื้นที่ที่ไม่อยู่ใกล้กับวัตถุที่อาจล้มทับหรือตกลงมาในขณะเกิดแผ่นดินไหว เช่น ตู้ที่ตั้งอยู่ใกล้หน้าต่าง กระจก หรืออุปกรณ์ที่อาจทำให้เกิดความเสียหายได้ ควรเลือกพื้นที่ที่มั่นคงและสามารถรองรับการเคลื่อนที่ได้ในกรณีเกิดการสั่นสะเทือน
- การใช้ชั้นวางของที่มั่นคง
การใช้ชั้นวางของที่มั่นคงและมีระบบล็อคที่ปลอดภัยจะช่วยป้องกันไม่ให้ของหล่นลงมาเมื่อเกิดแผ่นดินไหว ควรใช้ชั้นวางที่มีขนาดพอเหมาะ ไม่สูงจนเกินไป และสามารถยึดติดกับผนังได้ เพื่อเพิ่มความมั่นคงให้กับชั้นวางของ นอกจากนี้ การจัดวางของในลักษณะที่ไม่ซ้อนกันจนเกินไปจะช่วยให้ของไม่ล้มลงได้ง่าย
- การบรรจุและจัดเก็บของในภาชนะที่ปลอดภัย
ของที่มีขนาดเล็กหรือเปราะบาง เช่น แก้ว ชาม หรือเครื่องใช้ที่แตกหักง่าย ควรเก็บไว้ในกล่องหรือภาชนะที่มีความปลอดภัยและสามารถป้องกันการกระแทกได้ ควรใช้วัสดุป้องกันการกระแทก เช่น ฟองน้ำหรือกระดาษห่อ เพื่อป้องกันไม่ให้ของเหล่านี้เสียหายเมื่อเกิดการสั่นสะเทือน
- การจัดเก็บของจำเป็นในกรณีฉุกเฉิน
ในกรณีที่เกิดแผ่นดินไหว การเตรียมของที่จำเป็นสำหรับการเอาตัวรอดเป็นสิ่งที่ควรทำ เช่น น้ำดื่ม อาหารแห้ง ยาสามัญประจำบ้าน หรือเครื่องมือที่ใช้ในการปฐมพยาบาล ควรเก็บของเหล่านี้ในที่ที่เข้าถึงได้ง่ายและปลอดภัย เพื่อให้สามารถนำไปใช้ได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์
- การตรวจสอบความปลอดภัยของห้องเก็บของ
ก่อนที่จะจัดเก็บของ ควรตรวจสอบห้องเก็บของให้แน่ใจว่าไม่มีสัญญาณของการผุพังหรือปัญหาทางโครงสร้างที่อาจทำให้ห้องเก็บของเสียหายเมื่อเกิดแผ่นดินไหว ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีวัตถุที่อาจร่วงหล่นจากที่สูงหรือมีอันตรายจากการเคลื่อนที่ของวัตถุในขณะเกิดเหตุ
- การทำแผนการอพยพในกรณีฉุกเฉิน
การทำแผนการอพยพจากห้องเก็บของในกรณีเกิดแผ่นดินไหวเป็นสิ่งสำคัญ ควรเตรียมทางออกที่ปลอดภัย และรู้เส้นทางที่จะหลบหนีในกรณีฉุกเฉิน ควรมีการฝึกซ้อมการอพยพอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เกิดความมั่นใจในการทำงานร่วมกันเมื่อเกิดเหตุการณ์จริง



